วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553
14 วิธี นอนหลับสบายและฝันดี

บ่อยแค่ไหนที่น้องๆ ชาว Dek-D.com ต้องนอนดึกแล้วก็ตื่นมาพร้อมกับความอ่อนเพลียในตอนเช้า ลองทำตามคำแนะนำง่ายๆ นี้ดูนะคะ แล้วน้องๆ ชาว Dek-D.com จะพร้อมเข้านอนและหลับได้ในทันที
น้องๆ ชาว Dek-D.com ลองทำตามขั้นตอนตามนี้ดูนะจ๊ะ
1. น้องๆ ชาว Dek-D.com ต้องแน่ใจว่าได้เตรียมของสำหรับพรุ่งนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างเช่น จัดกระเป๋า หรือเตรียมอุปกรณ์ไว้พรีเซนต์ ตั้งนาฬิกาปลุก หรือเตรียมชุดที่จะใส่ในวันพรุ่งนี้ไว้แล้ว
2. ล้างหน้าด้วยนะคะ ให้น้องๆ ชาว Dek-D.com ล้างหน้าและลำคอด้วยน้ำยาทำความสะอาดใบหน้า (face cleanser) แล้วก็ต้องแน่ใจนะคะว่าน้ำยานั้นไม่มีส่วนผสมของสบู่ และถ้าเป็นไปได้ต้องไม่มีแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ ต่อจากนั้นก็ใช้ครีมที่เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว (มีมอยซเจอร์ไรเซอร์) แต่ถ้าน้องๆ ชาว Dek-D.com เพลียและง่วงนอนมากๆ ก็อาจจะใช้ผ้าทำความสะอาดใบหน้าแทนก็ได้ และพยายามใช้โทนเนอร์, โลชั่น และใช้มาสก์หน้า สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที และทาครีมบำรุงผิวสำหรับกลางคืน (night cream)
3. เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนนอน มันเป็นเรื่องสำคัญมากนะคะ เพราะมันจะดีแค่ไหนที่เราไม่ต้องตื่นมากลางดึกเพื่อเข้าห้องน้ำอีก เข้าไปถึงแม้ว่าจะยังไม่ปวดแต่ก็อย่าไปฝืนถ้าลองเข้าไปแล้วแต่ไม่สำเร็จ
4. เป่าผมให้แห้งแม้เป็นเพียงผลจากการล้างหน้า แต่ก็อย่าใช้เวลากับตรงนี้นานนักนะคะ ถ้าน้องๆ ชาว Dek-D.com ไม่มีไดร์เป่าผม ก็ให้ใส่หมวกคลุมอาบน้ำไว้ตอนล้างหน้า หรือปล่อยให้ผมแห้งไปเองก็ได้
5. แปรงฟันก่อนนอนด้วยนะคะ แปรงให้สะอาดทุกซอกทุกมุมเลยนะคะ ข้างนอก ข้างใน ข้างบน ข้างล่าง แปรงจนกว่าจะรู้สึกว่าปากสดชื่น แล้วก็ต้องแปรงลิ้น ใช้ไหมขัดฟันและใช้น้ำยาบ้วนปากด้วยนะคะ หลังจากล้างปากแล้ว ให้ดื่มน้ำแก้วเล็กๆ แล้วก็แปรงผมต่อเลยก็ได้นะคะ แต่ต้องแน่ใจนะว่าถอดยางมัดผมแล้ว และจะสามารถหวีผมที่ยุ่งเหยิงไปได้
8. เปิดหน้าต่างซะถ้าห้องมันร้อนไป หรือถ้ารู้สึกหนาวก็หาผ้ามาห่ม
9. ปิดไฟก่อนนอนด้วยนะคะ
10. นอนลงบนเตียงแล้วห่มผ้าให้ร่างกายอบอุ่น อ่านหนังสือต่างๆ แต่ไม่ควรดูโทรทัศน์ หรือเล่นคอมพิวเตอร์ ก่อนนอน เพราะมันจะมีผลเสียต่อการนอน
11. น้องๆ ชาว Dek-D.com อาจจะเปิดเพลงเบาๆ ไว้ได้ถ้าต้องการ
12. เมื่อไหร่ที่รู้สึกง่วง ให้วางหนังสือที่อ่านอยู่ลง และคิดถึงเรื่องที่อยากจะฝัน
13. ปิดไฟ ปิดวิทยุให้เรียบร้อย
14. จากนั้นก็หลับให้สบาย และฝันดีนะคะ
บทความโดย พี่นัท จากคอลัมน์ Lifestyle > เรื่องน่ารู้ไลฟ์สไตล์
เตือนภัยการคุยโทรศัพท์มือถือ
ดูเหมือนว่า ปัจจุบันนี้การสื่อสารผ่าน “การคุยโทรศัพท์มือถือ” เป็นเสมือนการสื่อสารหลักของผู้คน ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่การสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือมักจะเป็นทางเลือกแรกๆ ที่ผู้คนเลือกใช้ แน่นอนว่า พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ของแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆบางคนโทรมาก บางคนโทรน้อย บางคนคุยโทรศัพท์มือถือที่ละนานๆ เป็นชั่วโมง …
สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือต้องทราบไว้ก็คือ ถึงแม้การสื่อสารผ่านช่องทางนี้จะให้ความสะดวกและรวดเร็ว แต่ถ้าหากมีการใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกันบ่อยๆ เป็นเวลานาน “คุณ” อาจะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออาการ “เสียงดังในหู” มากกว่าคนปกติถึงสองเท่า!!!
มีรายงานการวิจัยของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์เวียนนา ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในวารสารออกคิวเปชันนัล แอนด์ เอนไวเรนเมนทัล เมดิซิน โดยผลการวิจัยดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นว่า การใช้โทรศัพท์มือถืออย่างน้อย 4 ปี เพิ่มความเสี่ยงอาการเสียงดังในหูถึงสองเท่า รบกวนการนอน การทำงาน และยังกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือด้วย
โดยผู้ที่มีอาการดังกล่าว 1 ใน 7 ต้องทรมานกับอาการที่รักษาไม่หายนี้ในบางช่วงของชีวิต การค้นหาสาเหตุเพิ่มเติมจึงอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้คนนับล้านทีใช้โทรศัพท์มือถือ
ในการวิจัยครั้งนี้นักวิจัยออสเตรเลียได้เปรียบเทียบการใช้โทรศัพท์มือถือของกลุ่มตัวอย่าง 100 คนที่เข้ารับการรักษาอาการเสียงดังในหู กับกลุ่มตัวอย่างอายุเท่ากันอีก 100 คนที่ไม่มีอาการดังกล่าว
กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดถูกสอบถามเกี่ยวกับประเภทโทรศัพท์ที่ใช้ สถานที่ที่ใช้ เนื่องจากสัญญาณออกของโทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มแรงขึ้นในพื้นที่ชนบท นอกจากนี้นักวิจัยยังสอบถามเกี่ยวกับความถี่และระยะเวลาในการใช้โทรศัพท์ หูข้างที่ชอบใช้ และการใช้อุปกรณ์มือถือ
ซึ่งผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือก่อนมีอาการเสียงดังในหู มีแนวโน้มมีความผิดปกติดังกล่าวเพิ่มขึ้น37% ส่วนคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือเฉลี่ยวันละ 10 นาที มีแนวโน้มอาการเสียงดังในหูเพิ่มขึ้น 71%
นอกจากนี้ คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือมานาน 4 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มอาการเสียงดังในหูเพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับกลุ่มเปรียบเทียบ ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดจากการแพร่กระจายรังสีของโทรศัพท์มือถืออาจทำลายการทำงานอันละเอียดอ่อนของหูชั้นใน และยังเป็นไปได้ว่าแรงกดที่เกิดจากการกดโทรศัพท์กับหูและไหล่ระหว่างเดิน กระตุ้นให้เกิดอาการเสียงดังในหู ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ เช่น รบกวนสมาธิในการทำงาน ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้
ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีผลการวิจัยที่ชี้ชัดถึงวิธีการบำบัดอาการดังกล่าว แต่วิธีป้องกันที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดอาการดังกล่าว คือการรักษาระดับความถี่ในการใช้โทรศัพท์มือถือให้มีความพอดี ไม่ควรคุยทีละนานๆ และคุยด้วยระดับเสียงที่ปกติ …
วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553
คติสอนใจ
1. ขอบคุณข้าวทุกเม็ด น้ำทุกหยด อาหารทุกจานอย่างจริงใจ
2. อย่าสวดมนต์เพื่อขอสิ่งใด นอกจาก “ปัญญา” และ “ความอุตสาหะ”
3. “เพื่อนใหม่” คือของขวัญที่ให้กับตัวเอง ส่วน “เพื่อนเก่า” “มิตร” คืออัญมณีที่นับวันจะเพิ่มคุณค่า
4. อ่านหนังสือธรรมะ ปีละเล่ม
5. ปฏิบัติต่อคนอื่นเช่นเดียวกับที่ต้องการให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเรา
6. พูดคำว่า “ขอบคุณให้มาก”
7. รักษา “ความลับให้เป็น”
8. ประเมินคุณค่าของการให้ “อภัย” ให้สูง
9. ฟังให้มากแล้วจะได้คู่สนทนาที่ดี
10. ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง หากมีใครตำหนิ และรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นจริง
11. หากล้มลง จงอย่ากลัวกับการลุกขึ้นใหม่
12. เมื่อเผชิญหน้ากับงานหนักคิดเสมอว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะล้มเหลว
13. อย่าถกเถียงธุรกิจภายในลิฟต์
14. ใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก อย่าใช้เพื่อก่อหนี้สิน
15. อย่าหยิ่ง หากจะกล่าวว่า “ขอโทษ”
16. อย่าอายหากจะบอกใครว่า “ไม่รู้”
17. ระยะทางนับพันกิโลเมตร แน่นอนมันไม่ราบรื่นตลอดทาง
18. เมื่อไม่มีใครเกิดมาแล้ววิ่งได้ จึงควรทำสิ่งต่าง ๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
19. การประหยัดเป็นบ่อเกิดแห่งความร่ำรวย เป็นต้นทางแห่งความไม่ประมาท
20. คนไม่รักเงิน คือไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต
21. ยามทะเลาะกัน ผู้ที่เงียบคือผู้ที่มีการอบรมสั่งสอนที่ดี
22. ชีวิตนี้ฉันไม่เคยทำงานเลยสักวัน ทุกวันเป็นวันสนุกหมด
23. จงใช้จุดแข็ง อย่าเอาชนะจุดอ่อน
24. เป็นหน้าที่ของเราที่จะพูดให้คนอื่นเข้าใจ ไม่ใช้หน้าที่ของคนอื่นที่จะทำความเข้าใจในสิ่งที่เราพูด
25. เหรียญเดียวมี 2 หน้า ความสำเร็จกับความล้มเหลว
26. อย่าตามใจตนเอง เรื่องยุ่ง ๆ เกิดขึ้นล้วนตามใจตัวเองทั้งสิ้น
27. ฟันร่วงเพราะมันแข็ง ส่วนลิ้นยังอยู่เพราะมันอ่อน
28. อย่าดึงต้นกล้าให้มันโตไว ๆ (อย่าใจร้อน)
29. ระลึกถึงความตายวันละครั้ง ชีวิตจะมีความสุข มีอภัย มีให้
30. ทุกชิ้นงานจะต้องกำหนดวันเวลาแล้วเสร็จ
31. จงเป็นน้ำครึ่งแก้วตลอดชีวิต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด
32. ดาวและเดือนที่อยู่สูงอยากได้ก็ต้องปีน “บันไดสูง” ที่สำคัญในการดำเนินชีวิต
33. มนุษย์ทุกคนมีชิ้นงานมากมายในชีวิต จงทำชิ้นงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ
34. หนังสือเป็นศูนย์รวมปัญญาของโลก จงอ่านหนังสือเดือนละเล่ม
35. ระเบียบวินัย คือ คุณสมบัติที่สำคัญในการดำเนินชีวิต
วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553
เป้าหมายของชีวิต
ชีวิตย่อมมีเป้าหมายของชีวิตอยู่เอง
ครั้นเมื่อมนุษย์ช่างคิด ช่างฝัน
เขาจึงได้รังสรรค์เป้าหมายขึ้นใหม่
แล้วยอมเป็นทาสของเป้าหมายนั้นโดยดุษฏี
เป้าหมายของชีวิตที่มนุษย์คิดขึ้นนั้น
ไม่อาจนำมาซึ่งความเกษมสำราญที่แท้จริงทั้
งยังอาจเป็นเหตุแห่งความทุกข์ยากไม่รู้จบสิ้น
เป้าหมายของการกระทำนั้นต้องมีอยู่
แต่ต้องไม่งมงายยึดมั่นเกินไป
เพราะความงมงายยึดมั่นเกินไป
ทำลายความสดชื่นมั่นคงในการดำเนินชีวิต
ดำรงจิตใจให้มั่นคง เริงรื่น ชื่นบาน
และเกษมสำราญกับการช่วยเหลือสรรพชีวิตเถิด
ชีวิตเฉพาะหน้าเช่นนั้น นั่นเอง
ที่ดำรงอยู่แล้วในเป้าหมายของชีวิตที่แท้
"จงเป็นในสิ่งที่ต้องเป็นให้เป็นสุข
อย่าพยายามเป็นให้เป็นทุกข์
ในสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็น"
น้ำแข็งที่อาร์คติคบางลงทุกปี

นักวิจัยระบุว่ามวลของน้ำแข็งกำลังลดลงลงเนื่องจากความหนาของมันลดลงนั่นเอง ทีมวิจัยได้สาธิตด้วยการวัดความหนาของแผ่นน้ำแข็งที่บริเวณตอนเหนือและตะวันออกของเกาะกรีนแลนด์โดยใช้เครื่องบินวิจัยโพลาร์-5 ที่ใช้เวลาบินสำรวจราวๆ 1 สัปดาห์เพื่อหาพื้นที่น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกนี้
คำถามที่ว่าอีกนานแค่ไหนที่มหาสมุทรอาร์คติคไม่มีน้ำแข็งเลยในช่วงซัมเมอร์นั้นเป็นคำถามที่คาใจศาสตราจารย์ ดร.รูดิเจอร์ เกอร์เดส จากสถาบันอัลเฟรดเวเจเนอร์มาเป็นเวลานานแล้ว โดยตอนนี้ ได้มีดาวเทียมสำรวจพื้นที่ที่น้ำแข็งปกคลุมขั้วโลกเนหนือมา 30 ปีแล้ว ทำให้ศาสตราจารย์ต้องเก็บข้อมูลเพิ่มเร่องความหนานี้
อย่างไรก็ตาม ความหนาก็คงจะบอกอะไรได้แค่ในวงแคบๆ ศาสตราจารย์จึงต้องใช้วิธีพิเศษในการพยากรณ์ด้วยโมเดลทางคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นมา จนได้ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว
"ผมอยากจะเห็นข้อมูลการวัดความหนาของน้ำแข็งทะเลมานานแล้ว เพียงแค่ผมรู้ข้อมูลความหนาไปในหลายๆพื้นที่แล้ว เราก็อาจจะคำนวณได้ว่า น้ำที่จะมาจากน้ำแข็งขั้วโลกทั้งหมดนี้จะมีปริมาณเท่าไหร่"
พื้นที่น้ำแข็งที่มหาสมุทรอาร์คติคนี้ว่ากันว่ามีปริมาณน้ำแข็ง 2.7 ล้านล้าานตัน แต่มีการพังทลายลงไปราวๆ 3000 ลูกบาศก์กิโลเมตรทุกๆปี แต่นอกจากจะพังทลายและละลายเป็นน้ำลงสู่มหาสมุทรแล้ว นักวิจัยก็ได้ค้นพบว่าน้ำแข็งนั้นบางลงทุกๆปี และเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว
แปลจาก: http://www.sciencedaily.com/releases/2010/08/100820101356.htm
วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553
แฟนแบบนี้ ควรหลีกไกล ก่อนที่จะถลำลึก
1. แฟนประเภทชอบรื้อฟื้น เช่น คบกันอยู่ดีๆ แต่วันร้ายคืนสยองเขากลับ มักพูดถึงแต่แฟนเก่า ว่าเป็นคนอย่างงั้น อย่างโน้น นัยว่าหล่อน เป็นแม่พิมพ์ประจำใจเขานั่นแหละ แถมเล่าแล้วไม่เล่าเปล่าเสียด้วยนะ มีการจับทั้งแฟน ปัจจุบันกับอดีตหวานใจมาเปรียบเทียบซะกระเจิด กระเจิง แล้วไอ้ที่ เขาพูดๆ พล่ามๆ เรื่องรักเก่าสมัย ม.3 อะไรเนี่ย มันเป็นสิ่งสร้างสรรค์ หรือทำให้รักปัจจุบัน เหนียวแน่นหรือก็เปล่าเลย ยิ่งเห่า เอ้ย ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้แฟนคนล่าสุดหมดกำลังใจไปเรื่อยๆ แถมดีไม่ดี เขาอาจเก็บภาพสมัยที่เคยระเริงรักกับแฟนเก่า ซึ่งซุกไว้ในเอ็กซ์ไฟล์ ส่วนตัวมาเปิดดูบ่อยๆ โดยที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ แล้วอย่างนี้จะให้รักกันไหวไหมล่ะ2. แฟนชอบโกหกจนเป็นสันดาน ข้อนี้คงไม่ต้องอาศัยคำอธิบายอะไรให้มาก เพราะ ใครบ้าง ที่ไม่รู้อยู่แก่ใจว่า การโกหก คือยาพิษที่ บ่อนทำลายความรักได้ง่ายและฉับไวที่สุดบ้างนะ เหตุนี้ ถ้ามีแฟนจัดเข้าข่ายเป็นพวกโก-Six หรือมุสาวาจา เป็นกิจวัตร หรือพวกชอบโชว์มาด “มือถือสาก ปากถือศีล” ล่ะก็ ถ้าไม่เลิกกันวันนี้ พรุ่งนี้ ก็คงมะรืนนี้แหละ สักวันนึงย่อมทนกันไม่ได้อยู่ดี
3. แฟนเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า แบบ ว่าเผลอเป็นไม่ได้ ต้องสะเหร่อแบ่งกายไปเบียด คนอื่นอยู่เรื่อย แต่ใช้ข้ออ้างเดิมๆ ว่า เพราะเด็กมันยั่ว เลยหลวมตัวนอตหลุด งั้นเชิญไปไขก๊อกกันทุกคืนเลยแล้วกัน เราอย่าลดตัว เป็นมารคอหอยเขาหน่อยเลย
4. แฟนที่ไม่สนว่า จำเป็นต้องเอาใจคนรักอะไร กันนักหนา .ถ้าไม่รู้จักเอาใจสวีตฮาร์ท แล้วจะให้อีกฝ่ายคอย แต่เอาใจใส่เขาหรือยังไง หากรักกันจริงก็ควรเทกแคร์กันสิเพ่ เท กแคร์น่ะแปลว่า ดูแลเอาใจใส่ไม่ ใช่ไม่เห็นจำเป็นต้องไปเหลียวแล เค้าว่า ความรักคือการแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แก่กันไม่ใช่หรือ? แล้วเคยให้กันบ้างไหม?
5. แฟนไม่เคยมีเวลาให้ รวมไปถึงชอบผิดนัด นิยมบอกปัด อ้างงานเยอะ แม้แต่วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ไม่รู้หายหัวไปไหน ขืน เป็นงี้ แล้วจะเป็นแฟนกันไปทำไม? จะเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟนก็แปะเอี้ย (เหมือนกัน) ไม่เห็นมีอะไรต่าง นอกจากอยากเป็นแฟนเฉพาะทางโทรศัพท์ก็ว่าไปอย่าง
6. แฟนไม่เคยทำตามสัญญา ให้ความหวังด้วยลมปากเป็นอย่างเดียว แต่ทำให้หวังเป็นจริง ไม่ได้ก็แย่
7. แฟนที่ชอบตอกย้ำซ้ำเติมปมด้อยให้น้อยเนื้อต่ำใจได้ตลอดเวลา เอ๊ะ ถ้าไม่เห็นเรามีดีแล้วตกลงมารักกันให้เจ็บๆคันๆ ทำไมเหรอ ถ้ารักแล้ว พูดจาภาษาดอกไม้ หาเรื่องดีๆ เป็นสิริมงคลมาคุยกันไม่ได้ งั้นหันมาเป็นศัตรูกันยังเก๋ซะกว่า นี่ล่ะหนา ถึงอยากถามใครต่อใคร ว่าก่อนจะรัก หล่อนพร้อมจะเจ็บกระดองใจหรือยังจ๊ะ
ใครที่มีแฟนแบบนี้ ห่างๆบ้างก็ดีนะคะวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553
6 วิธีพัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศ
1.ตั้งเป้าหมาย เพราะชีวิตที่ประสบความสำเร็จ คือ ชีวิตที่มีเป้าหมาย ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ รวมทั้งการใช้เวลาอย่างมีคุณค่า เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ
2.มีวินัย เป็นหลักปฏิบัติที่ช่วยให้ทำงานสำเร็จ เอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ได้ด้วยเวลาอันสั้น เป็นตัวกำหนดการเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับ และช่วยควบคุมตนเองได้ดี
3.สร้างความมั่นใจ ถือเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จและเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต ทั้งเรื่องเรียนและการทำงาน นอกจากจะส่งผลให้เป็นคนกล้าแสดงออก และกล้าเผชิญกับเรื่องต่างๆ อย่างมั่นใจแล้ว ยังทำให้บุคลิกภาพดีด้วย
4.รับฟังความคิดเห็น และคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นอย่างมีเหตุผล ขณะเดียวกันเมื่อพบกับปัญหา ควรหาทางออกที่เหมาะสม เพื่อสร้างความร่วมมือที่ดีในการทำงาน
5.มองโลกในแง่ดี มีความคิดเชิงบวก จะส่งผลให้สุขภาพจิต สุขภาพกายดี ความคิดโปร่งใส สุดท้ายจะตามมาด้วยความสุขและความสำเร็จ
6.ใช้ชีวิตให้สมดุล ด้วยการเดินสายกลาง อย่าทุ่มเทชีวิตให้ด้านใดด้านหนึ่ง จนด้านอื่น ๆ ขาดการดูแล รู้จักใช้ชีวิตให้สมดุล เพื่อกระตุ้นให้ชีวิตมีความสุข มีความคิดสร้างสรรค์ และมีพลังในการเรียน การทำงานต่อไป
การพัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ ควบคู่ไปกับ IQ นั้น ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ และนำไปสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง.
เจ้าของบทความ : ไม่ทราบชื่อ
จูบบอกบุคลิกภาพ
ถ้าไม่เชื่อก็ลองเลือกตัวเลือกเหล่านี้ดูสิ ถ้าหากว่าคุณต้องการที่จะ "จูบ" ใครสักคน
คุณจะเลือก "จูบ" ส่วนไหนดีคะ
=> หน้าผาก
=> เปลือกตา
=> ปลายจมูก
=> ใบหน้า
=> ใบหู
=> ริมฝีปาก
=> ช่วงคอ
เมื่อเลือกเสร็จแล้ว ลองอ่านเฉลยดูนะจ๊ะ
---------------------------------------------------------------------------
เฉลย
หน้าผาก
คุณเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่รักสันติ
ชอบที่จะให้อภัยคนอื่น และต้องการความนับถือจากผู้อื่นเช่นเดียวกัน
คุณมีความสามารถพิเศษในการที่จะแสดงออกเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีมากคนหนึ่ง
ดังนั้น คุณจึงสามารถมีชีวิตที่จะประสบผลสำเร็จในสังคมได้
และบรรดาเพื่อน ๆ ที่อยู่รอบกายคุณจะมองว่าคุณเป็นคนที่สุภาพและสามารถเข้าใจพวกเขาได้เป็นอย่างดี
เปลือกตา
คุณเป็นโรมิโอที่หัวดื้อที่สุด ผู้ซึ่งต้องการที่จะรักมาก และคุณสามารถที่จะสละทุกสิ่งได้เพื่อความรัก
ความรักของคุณจะแสดงออกมาในรูปแบบของความป่าเถื่อนและรุนแรง
จนถึงกับกลายเป็นนักรักที่ดุร้าย ทำให้บางครั้งคนรักของคุณอาจมองว่าคุณเป็นคนเห็นแก่ตัว
ปลายจมูก
ในเรื่องของความสัมพันธ์ SEX ค่อนข้างที่จะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณ
คุณให้ความสำคัญต่อมิตรภาพความซื่อสัตย์ และมีความปรารถนาอย่างรุนแรงในเรื่องของความรักและ SEX คุณเป็นคนสนุกสนาน และไม่ใช่คนอดทนพอที่จะพักอยู่เป็นเวลานานในที่ที่คุณปราศจากความสบาย
ดังนั้น จึงเป็นการยากที่คุณจะสร้างรากฐานที่มั่นคงในอาชีพหรือการดำเนินชีวิตของคุณ
และมันจะเป็นการชี้นำว่า คุณไม่สามารถเปลี่ยนงานที่คุณทำอยู่ได้ หากปราศจากเหตุผลอันหนักแน่นเพียงพอ
ใบหน้า
คุณให้ความสำคัญกับสันติภาพอยู่เหนือสิ่งใดและเหล่าเพื่อนๆ ก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากต่อคุณ
คุณยินดีที่จะแบ่งปันรางวัลทั้งหมดของคุณแก่เหล่าเพื่อน
และคุณเป็นคนที่ไม่หงุดหงิดง่าย ๆ ถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเพียงเล็กน้อย
คุณเป็นคนใจดี อีกทั้งยังไม่เก็บเรื่องแย่ ๆ ของคนอื่นมาครุ่นคิด
ดังนั้น คุณจึงมีความสามารถที่จะรักษาความสัมพันธ์ด้านความรักและความเมตตาเอาไว้ได้ยาวนาน
ใบหู
คุณสามารถเดาใจของผู้อื่นได้อย่างแม่นยำ คุณจึงสามารถเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
คุณมีอารมณ์ที่จะชื่นชมหรือมีส่วนร่วมกับความรู้สึกและความนึกคิดของผู้อื่น
อย่างไรก็ดี คุณก็สามารถที่ทำให้เกิดเรื่องตลกขึ้นได้โดยร่วมกับผู้อื่น
เพื่อที่จะบรรลุจุดมุ่งหมาย คุณก็พร้อมที่จะเสียสละให้แก่ผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย
และเพื่อทีจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดี คุณจะมีการควบคุมอารมณ์และการแสดงออกอันไร้เหตุผล
พฤติกรรมของคุณจึงเกี่ยวพันสอดคล้องกับความรู้สึกภายในของคุณอย่างชัดเจน 100 %
ริมฝีปาก
คุณเป็นคนหนึ่งที่มีความซื่อสัตย์มาก เมื่อคุณได้จุมพิตริมฝีปากของใครคนหนึ่ง
คุณได้แสดงออกอย่างแน่นอนถึงความหวังของการมีรักแท้
ราวกับมีการเปล่งประกายแสงออราของความเชื่อมั่น
คุณเป็นคนหนึ่งที่มีหลักเกณฑ์ทางศีลธรรมที่เข้มงวด
ช่วงคอ
ธรรมชาติความรักของคุณ คุณไม่ได้เป็นคนที่ฝันถึงเรื่องความรักชั่วนิจนิรันดร
แม้ว่าความรู้สึกในการเป็นเจ้าของในสิ่งต่าง ๆ ของคุณจะมีมากก็ตาม แต่มันก็จะจางหายไปในชั่วเวลาหนึ่ง
แม้ว่าคุณจะไม่ได้รักคนรักของคุณแล้ว แต่คุณก็มีความเห็นแก่ตัว ต้องการให้คนรักของคุณยังคงรักคุณอยู่
คุณไม่ใคร่มีความกระตือรือร้นมากเท่าใดนักต่อชีวิตของคุณเอง
และไม่ได้มีอะไรพิเศษเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับบทบาททางเพศของคุณ
ที่มา : admin
เจ้าของบทความ : ไม่ทราบชื่อ
ผู้หญิงแบบไหน ที่ผู้ชายอยากได้เป็นเจ้าสาว
ผู้หญิงแบบเพื่อนกัน เค้าหน่ะไม่อยากได้แม่อีกคนหรอกนะ หรือว่าไม่อยากได้ประเภทอินโนเซนท์ทำอะไรไม่เป็น หรือว่าไม่มีหัวคิดเป็นของตัวเอง ผู้ชายก็เหมือนผู้หญิงนั่นแหละ เขาอยากจะมองหาคนที่เข้าใจ ไว้ใจ เชื่อใจได้ ปรึกษาได้ทุกเรื่อง หรือเป็นเพื่อนคุยคอยรับฟังปัญหา แบ่งปันรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือแม้แต่น้ำตา ทุกเวลากับคนที่จะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
มีความเป็น "เรา" คือ มีความเชื่อและค่านิยมพื้นฐานที่คล้ายๆ กันไง แต่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกๆ อย่าง ความรู้สึกที่เป็นทีมเวิร์คที่ดี จะทำให้คนสองคนมีความผูกพันกันมากขึ้น เช่น ค่านิยมพื้นฐานเรื่องเวลา เงิน หรือแม้กระทั่งศาสนา และความสำคัญของครอบครัว
ผู้หญิงที่มีความสนใจอะไรคล้ายๆ กัน ผู้ชายจะตื่นเต้น ที่ได้พบผู้หญิงที่ให้เขาเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เธอทำ และผู้หญิงก็เช่นกัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่แอคทีฟ และสนุกในกิจกรรมเดียวกับที่ผู้ชายทำ ไม่ว่าจะเป็นชอบเล่นกีฬา หรือว่าเล่นเกมส์ เคาน์เตอร์สไตรค์ ฯลฯ ผู้หญิงที่น่าสนใจจะเป็นคนที่ดึงผู้ชายให้ไปลองอะไรใหม่ๆ ที่เขาอาจจะไม่ชอบโดยธรรมชาติ แต่หลังจากนั้น เขาจะค้นพบว่าเขาก็สนุกเหมือนกัน ที่ได้ลองทำอะไรแปลกออกไป
ผู้หญิงที่มีอารมณ์ขัน ไม่มีใคร อยากอยู่กับผู้หญิงที่หน้าบึ้ง หรือว่าไม่มีอารมณ์ขันเอาเสียเลย เสียงหัวเราะที่สดใส ไร้จริต เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้ชายหลงมานักต่อนักแล้ว คุณรู้สึกบ้างหรือเปล่าเวลาที่คุณหัวเราะกับใครซักคน คุณจะรู้สึกเป็นกันเองกับคนๆ นั้นทันที อารมรณ์ขันช่วยสร้างความใกล้ชิดและความอบอุ่น แถมยังไล่ตะเพิดความเครียดอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นคำพูดที่ว่า "ยิ้มวันละนิด จิตแจ่มใส" ก็ยังใช้ได้ดีอยู่
ฉลาด ผู้หญิงฉลาดเท่านั้นที่ผู้ชายต้องการ บางคนบอกว่าผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงที่ฉลาดและเก่งกว่าตน ไม่จริง หรอกค่ะ ผู้ชายสมัยนี้นิยมผู้หญิงที่ฉลาด มีไหวพริบ มีความคิดความอ่าน แต่ต้องฉลาดให้ถูกที่ ไม่ใช่ทำเบ่งอวดฉลาดต่อหน้าคนอื่น แล้วทำให้ผู้ชายคนนั้นต้องอับอาย อย่างนั้นไม่ฉลาดจริงหรอก
เรื่องเซ็กส์ ต้องยอมรับกันว่าอารมณ์แบบนี้มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน แต่ว่าเซ็กส์ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดหรอกค่ะ ไม่อย่างนั้นคงขึ้นไปอยู่อันดับที่ 1 แล้ว การคิดถึงใครในแง่ที่เป็นคู่นอนนั้น ไม่เหมือนกับการคิดถึงใครในแง่ที่เป็นพื่อนหรือคู่ชีวิตหรอกค่ะ ผู้ชายก่อนที่เขาจะแต่งงาน เขาก็จะไม่ได้มองหาความตื่นเต้นที่จะมีเซ็กส์หรอก แต่เค้ากลับมองและอยากจะแน่ใจว่า ในอีก 70 ปีข้างหน้า เขาจะยังอยู่เคียงข้างกับเธอคนนั้นต่างหาก
ที่มา : admin
เจ้าของบทความ : ไม่ทราบชื่อ
วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553
พระคุณแม่ทดแทนไม่รู้หมด
กาลครั้งหนึ่งไม่นานเท่าไหร่ ณ ต้นไม้ใหญ่ท้ายหมู่บ้าน มีเด็กชายคนหนึ่งเดินหงุดหงิดอยู่คนเดียว ปากก็บ่นไปว่า "ใช้อยู่ได้ วันๆใช้ทำโน่นทำนี่ เดี๋ยวให้ถูบ้าน เดี๋ยวให้ล้างจาน โอ้ย..เบื่อ ๆ ๆ "
เดือดร้อนถึงเทพผู้ให้กำเนิด ซึ่งเป็นผู้จัดให้เด็กๆมาเกิดในหมู่บ้านนี้ จึงแปลงกายเป็นผู้เฒ่าและปรากฎตัวพร้อมกับหมาน้อยตัวหนึ่ง
ผู้เฒ่าถามเด็กน้อยว่า " เด็กน้อยเจ้าบ่นอะไรอยู่เหรอ บอกเรามาเถอะเผื่อเราจะช่วยเจ้าได้ "
เด็กน้อยตอบ " ก็แม่ของฉันนะสิ วันๆชอบใช้ให้ทำงานบ้าน ไม่เคยได้พัก ได้เล่นกับเพื่อนบ้างเลย "
ผู้เฒ่าหยิบก้อนอิฐขึ้นมาสองก้อน
" เอ้า ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มาเล่นกับเราสิ เรามาแข่งกันถืออิฐนี้ไว้คนละก้อน
ใครถือได้นานกว่ากันคนนั้นชนะ "
เด็กชายเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายๆจึงตกลงเล่นด้วย เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
เด็กน้อยเริ่มเมื่อยล้า และเบื่อจึงบ่น และขอยอมแพ้


ผู้เฒ่าก็พูดต่อว่า
" งั้นเจ้าเล่นกับลูกสุนัขตัวนี้ไหมหละ แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องป้อนนมให้ลูกสุนัขตัวนี้ก่อนนะ "
เด็กน้อยตอบว่าก็ได้ แล้วเริ่มป้อนนมให้ลูกสุนัข ไม่นานลูกสุนัขก็ซนและไม่ยอมอยู่นิ่งเด็กน้อยก็เบื่อ แล้วก็บ่นพาลไม่ป้อนนมต่อ..

ผู้เฒ่าจึงสอนว่า
"แม้แต่ก้อนอิฐ 1 ก้อนเจ้าก็ยกได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เทียบไม่ได้กับแม่เจ้า
ซึ่งต้องอุ้มท้องเจ้าตลอดทั้งวันทั้งคืนนานถึง 9 เดือนก่อนจะคลอดเป็นเจ้าออกมา"
" แล้วยังต้องอดทนเลี้ยงเจ้าตั้งแต่เล็กจนโตขนาดนี้
ขณะที่เจ้าป้อนนมลูกหมาแค่มื้อเดียวก็เบื่อแล้ว "
" การเป็นแม่นั้นลำบากนัก ตั้งแต่อุ้มท้อง และเลี้ยงลูกจนกว่าจะโต
การทดแทนบุญคุณด้วยการช่วยการงานเพียงเล็กน้อย
ย่อมเทียบไม่ได้กับพระคุณแม่ที่เลี้ยงเรามา "
เด็กน้อยได้ฟังแล้วจึงคิดได้ รีบวิ่งกลับไปหาแม่โดยไม่คิดบ่นอีกเลย..
คติ:พระคุณแม่นั้นมากเหลือคณา จะตอนแทนเท่าไรก็ไม่หมด
"ฉลาดเรียน....กิน....เล่น" สามสมดุล สร้างได้ด้วยครอบครัว

" เด็กไทยกำลังน่าเป็นห่วง ทั้งในเรื่องสติปัญญา และพฤติกรรมการกิน จากการสำรวจของสถาบันราชานุกูล พบว่า ..... เด็กไทยชั้นประถมอายุ 6-11 ปี มีระดับไอคิวเพียง 97-98 ถือว่าต่ำ ถึงแม้จะไม่ต่ำกว่าเกณฑ์เมื่อเทียบกับเด็กปกติที่จะต้องมีประมาณ 90-110 ส่วนเรื่องการกิน เด็กไทยไม่ค่อยกินอาหารเช้า กินแต่ขนมกรุบกรอบ หรือขนมกินเล่น มักอยู่แต่หน้าจอโทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าอยู่นานเกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไป จะมีผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก และนำไปสู่ภาวะโรคอ้วน และโรคต่างๆในที่สุด"
ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากครอบครัว พ่อแม่ส่วนมาก มีความหวังอยากให้ลูกเก่ง และเป็นอัจฉริยะ จึงส่งให้ลูกเรียนกวดวิชา ซึ่งแต่ละวันจะให้เด็กเรียนหลายวิชามาก ไม่ว่าจะเป็น คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ดนตรี เป็นต้น ทำให้เด็กบางคนรับไม่ไหว ผลสุดท้าย เกิดความเครียด และกดดัน ผลคะแนนสอบจึงออกมาไม่ดี เมื่อเทียบกับเด็กที่เรียน-เล่นอย่างพอดี คะแนนสอบกลับได้มากกว่า
นอกจากนี้คุณสาหร่ายังบอกต่อว่า ความเก่งแม้จะมาจากพันธุกรรมของพ่อแม่ก็จริง แต่ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือครอบครัวที่ไม่เข้าใจเด็ก ความเก่งที่เด็กได้จากพันธุกรรมก็ไม่เกิดผลเต็มที่ ทางที่ดี พ่อแม่ต้องให้เด็กเก่งกิจกรรมควบคู่กับการเรียน เพราะจะช่วยให้เด็กเกิดการผ่อนคลาย มีเหตุมีผล ไม่มุ่งแต่จะเก่ง แต่กิจกรรม และกีฬาจะสอนให้เด็กรู้จักแพ้ชนะ มีสังคม และเข้าใจโลกได้เป็นอย่างดี รวมถึงต้องเข้าใจธรรมชาติของลูก และกระตุ้นจุดเด่นของลูกให้เต็มที่
ด้านพฤติกรรมการกินของเด็กไทย คุณหมอบอกว่า ยังมีทั้งขาด และเกิน โดยเฉพาะอาหารเช้า เป็นอาหารสำคัญที่เด็กไทยไม่ค่อยกิน สอดรับกับผลวิจัยของกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุว่า เด็กไทยวัยเรียนร้อยละ 28.5 ไม่กินอาหารเช้า ส่งผลต่อพัฒนาการ และการเรียนรู้ เช่น ไม่มีสมาธิในการเรียน ความจำและความเข้าใจในวิชาที่เรียนลดน้อยลง เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ทำให้เรียนไม่ทันเพื่อน ขาดเรียน และมีผลต่อการสอบ ทำให้มีอาการปวดท้อง ขาดสารอาหาร ร่างกายไม่เจริญเติบโตเต็มที่ และไม่แข็งแรง เฉื่อยชา ไม่อยากเรียนรู้ เป็นต้น ดังนั้น ทุกครอบครัวต้องปลูกฝังการกินตั้งแต่ลูกยังเล็ก อย่ามาแก้เอาตอนโต
10 ความเสี่ยงของ ''Facebook'' อาจทำร้ายชีวิตคุณได้
เว็บบล็อกของ "นิวส์วีก" ได้รวบรวม 10 ความเสี่ยงที่เฟซบุ๊กอาจทำร้ายชีวิตของเราเอาไว้ เพื่อให้พวกเราใช้เว็บเครือข่ายสังคมอย่างรู้เท่าทัน
1.คุณอาจ ได้อยู่ร่วมกับคนครอบครัวอีกครั้งหลังจากมีเหตุให้ต้องแยกกันไป ซึ่งถือเป็นข่าวดี แต่ก็อาจไม่ใช่ทั้งหมด อย่างกรณีของ "พรินซ์ ซากาลา" ที่ค้นพบลูกๆ ของเธอจากเฟซบุ๊ก โดยเธออ้างว่าอดีตสามีเป็นผู้ที่พาลูกๆ หนีไปนานนับสิบปี แต่แม้ว่าแม่และลูกจะได้กลับมาเห็นหน้ากันอีกครั้ง แต่ติดปัญหาตรงที่เด็กๆ เติบโตมาจากการดูแลของพ่อ และไม่ต้องการที่จะอยู่ร่วมกับแม่ ขณะที่เรื่องราวของ "เอมี สวอร์ด" น่าตกใจกว่า เมื่อเธอถูกพิพากษาจำคุก 9-30 ปี ในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นลูกชายในไส้ที่เธอปฏิเสธจะเลี้ยงดู แต่กลับมารู้จักกันทางเฟซบุ๊ก
2. จำไว้ว่าเจ้าหนี้สามารถตามรอยคุณได้ผ่านเฟซบุ๊ก โดยบรรดาเจ้าหนี้จะใช้เฟซบุ๊กเพื่อประเมินว่าคุณเป็นคนที่น่าจะปล่อยกู้ให้ หรือไม่ รวมทั้งใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางที่จะติดตามความเคลื่อนไหวของลูกหนี้ และจับตาดูสินทรัพย์ที่อาจจะยึดมาชดใช้หนี้ที่คุณติดอยู่
3. บริษัทประกันอาจปฏิเสธการจ่ายชดเชย ดังกรณีของผู้หญิงที่ได้รับค่าชดเชยความเครียดจากการทำงาน แต่กลับไม่ได้รับเงินในส่วนนี้เพราะเธอโพสรูปที่กำลังยิ้มไว้บนเฟซบุ๊ก บริษัทประกันจึงขอตัดสิทธิประโยชน์ส่วนนี้ โดยอ้างว่าภาพดังกล่าวแสดงว่าเธอพร้อมที่จะกลับมาทำงาน ซึ่งเรื่องนี้อาจจุดชนวนให้ทนายความถกเถียงเกี่ยวกับการจ่ายผลประโยชน์ ทุพพลภาพ จึงมีคำแนะนำไม่ให้เปิดเผยเรื่องส่วนตัวบนเฟซบุ๊กมากเกินไป
4. อดีตคนรักอาจใช้เฟซบุ๊กในคดีหย่าร้าง ปัจจุบันเฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือยอดฮิตสำหรับทนายที่ทำคดีหย่าร้าง ซึ่งจะแสวงหาข้อมูลของสามีหรือภรรยาของลูกค้า เพื่อใช้เป็นหลักฐานถึงการละเลยไม่เอาใจใส่ การแอบคบกิ๊ก หรือหลอกลวง มีกรณีที่คุณแม่ต้องสูญเสียสิทธิในการเลี้ยงดูลูกๆ หลังจากอดีตสามีพิสูจน์ว่าเธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเล่นเกมฟาร์มวิลล์ แทนที่จะใช้เวลาอย่างมีค่าเพื่อลูกๆ
5.เฟซบุ๊กอาจเป็นสาเหตุให้ คุณเครียด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสโตนี บรู๊ก ในนิวยอร์ก พบว่า สาวๆ วัยรุ่นที่ใช้เวลาส่วนใหญ่สนทนาเรื่องราวชีวิตกับผองเพื่อนมีความเป็นไปได้ มากที่จะเครียด เพราะการใช้เวลามากเกินไปในการเม้าท์และคุยถึงปัญหาต่างๆ จะทำให้คุณรู้สึกแย่ลง ไม่ใช่ดีขึ้น แม้นักวิจัยจะไม่ได้เน้นศึกษากรณีของเฟซบุ๊กโดยเฉพาะ แต่ผลการศึกษาดังกล่าวก็สะท้อนว่าเว็บเครือข่ายสังคม อาทิ เฟซบุ๊ก อาจทำให้ผู้คนติดต่อเพื่อนๆ ได้ง่าย และมักพูดคุยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
6. กระทบต่อหน้าที่การงาน จากผลสำรวจความเห็นของนายจ้างในอังกฤษ พบว่า ครึ่งหนึ่งของนายจ้างเหล่านี้ปฏิเสธว่าจ้างผู้สมัครที่เคยโชว์พฤติกรรมแย่ๆ ไว้บนเฟซบุ๊ก อาทิ เล่าเรื่องที่ตัวเองเมาจนหัวราน้ำ โพสภาพกิจกรรมนอกลู่นอกทาง และการใช้ภาษาแบบแย่ๆ ขณะที่ในสหรัฐ ราว 20% ของนายจ้างยอมรับว่าใช้เฟซบุ๊กในการหาผู้สมัครที่มีศักยภาพ ส่วนราว 9% บอกว่ากำลังจะเริ่มใช้เฟซบุ๊กในเร็วๆ นี้
7.แฉความลับที่ปิด ซ่อนไว้ เพราะแม้คุณจะระมัดระวังการใช้เฟซบุ๊ก แต่ผองเพื่อนปากสว่างของคุณอาจไม่ได้ระวังด้วย และอาจเผลอโพสต์ข้อความที่แฉความลับของคุณ ยิ่งกว่านั้น การใช้เฟซบุ๊กยังอาจบ่งบอกสิ่งที่อยู่เบื้องหลังตัวตนของคุณ ยกตัวอย่างนักศึกษาสถาบันเอ็มไอทีได้ออกแบบกระบวนการทำงานที่สามารถบ่งบอก ได้อย่างแม่นยำว่าผู้ใช้รายใดที่เป็นเกย์ โดยวิเคราะห์จากจำนวนเพื่อนๆ ที่เป็นเกย์
8.เฟซบุ๊กทำให้คู่รักหรือพวกตามรังควานติดตามความ เคลื่อนไหวของคุณได้ ง่ายขึ้น หากไม่มีเฟซบุ๊ก คนเหล่านี้อาจต้องหาวิธีอื่นที่จะไล่ตามคุณ แต่เฟซบุ๊กทำให้คนเหล่านี้ติดตามเหยื่อได้ง่ายและตอบกลับความเคลื่อนไหว ต่างๆ แม้เหยื่อจะพยายามตัดความสัมพันธ์แล้วก็ตาม อย่างกรณีของหญิงรายหนึ่งที่เปลี่ยนสถานะบนเฟซบุ๊กว่า "โสด" ถูกฆาตกรรมโดยสามีที่เพิ่งถูกบอกเลิก โดยหลังจากที่เขาเห็นภรรยาเปลี่ยนสถานะเป็นโสด เขาก็บุกเข้าไปทำร้ายเธอในบ้าน
9.คุณอาจถูกฟ้องหมิ่นประมาทได้ มีหลายกรณีที่ถูกฟ้องเพราะเนื้อหาที่โพสต์บนเฟซบุ๊ก อย่างในอังกฤษ นักธุรกิจหญิงชนะคดีหลังจากฟ้องร้องเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่สร้างโปรไฟล์ปลอม ที่เต็มไปด้วยข้อความหมิ่นประมาท
10.เด็กๆ อาจตกเป็นเหยื่อของคนร้าย อย่างกรณีของเด็กสาวในอังกฤษที่ถูกฆ่าโดยผู้ร้ายข่มขืน ซึ่งโพสตัวตนบนเฟซบุ๊กเป็นวัยรุ่นเหมือนกัน แม้ในอังกฤษจะมีแอพพลิเคชั่น "panic button" สำหรับให้วัยรุ่นแจ้งเรื่องต้องสงสัยไปยังทางการโดยตรง แต่แอพพลิเคชั่นนี้ก็ยังไม่ได้มีใช้ในสหรัฐหรือเวอร์ชันอื่นๆ
วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553
หลักการใช้งาน Internet Explorer สำหรับท่องเน็ตเบื้องต้น ที่ควรจะทราบไว้
IE หรือ Internet Explorer เป็นซอฟต์แวร์ สำหรับใช้งานระบบอินเตอร์เน็ต หรือมักจะนิยมเรียกว่า Browser ที่มีแถมมากับ Windows98 ทุกรุ่น โดยที่หากเป็น Windows98 Thai ก็จะมี IE4.0 แถมมาด้วย หากเป็น Windows98 SE ก็จะเป็น IE5.0 และถ้าเป็น WindowsMe ก็จะมี IE5.5 แถมมาให้ ดังนั้น หากคิดจะเล่นอินเตอร์เน็ตด้วย IE แล้วละก็ มาดูเทคนิค พื้นฐานเบื้องต้น ที่ควรจะรู้ไว้ ในการใช้ IE ให้เต็มความสามารถกันดีกว่าครับ
เมนู ปุ่ม และคำสั่งในเบื้องต้น
การใช้งาน IE ในเบื้องต้นก็คงจะไม่มีอะไรมากนัก คิดว่าหลาย ๆ คนคงจะพอรู้กันอยู่บ้างแล้ว เอาเป็นว่าผมจะทบทวนหลัก ๆ อีกครั้ง จากหน้าตาของ IE ที่คุ้นเคยกันดังนี้

มาดูหน้าที่ของปุ่มต่าง ๆ กันเลย
ปุ่ม Back ใช้สำหรับย้อนกลับไปหน้าที่ผ่านมาแล้ว
ปุ่ม Forward ใช้สำหรับเปลี่ยนไปหน้าต่อไป (หลังจากที่ย้อนกลับมา)
ปุ่ม Stop ใช้สำหรับหยุดการโหลดข้อมูลในหน้าเว็บเพจนั้น
ปุ่ม Refresh ใช้สำหรับการเรียกโหลดข้อมูลหน้าเว็บเพจใหม่อีกครั้ง
ปุ่ม Home ใช้สำหรับกลับไปหน้าแรกหรือกลับไปที่ URL ที่ตั้งไว้ให้เป็นหน้าแรก
ปุ่ม Search ใช้สำหรับค้นหาเว็บไซต์
ปุ่ม Favorites ใช้สำหรับเลือกเว็บไซต์จาก Favorites หรือ Book Mark
ปุ่ม History ใช้สำหรับการย้อนกลับไปดูเว็บไซต์ที่เคยเข้าไปดูมาแล้ว
ปุ่ม Mail ใช้สำหรับการ รับ-ส่ง อีเมล์
ปุ่ม Print ใช้สำหรับการพิมพ์หน้าเว็บออกเครื่องพิมพ์
ปุ่ม Edit ใช้สำหรับการแก้ไขหน้าเว็บเพจนั้น ๆ
การใช้งาน IE แบบ Offline
การใช้งานแบบ Offline ก็คือการที่เราทำการเก็บข้อมูลของหน้าเว็บเพจ ที่ได้เคยเข้าไปเยี่ยมชมแล้ว และทำการเรียกมาดูใหม่อีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องทำการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตใหม่ ซึ่งสามารถทำได้ 3 รูปแบบดังนี้
1. การใช้เมนู File >> Work Offline โดยการเลือกที่ Work Offline หรือเป็นการทำงานในแบบ Offline นั่นเอง เมื่อเลือกที่เมนูนี้แล้ว จะทำให้เราสามารถเรียกดูข้อมูลของเว็บที่ได้เคยแวะเข้าไปเยี่ยมชมและยังมีเก็บอยู่ใน Temporary File ขึ้นมาดูได้ โดยวิธีนี้อาจจะไม่สามารถรับประกันได้ว่า เว็บเพจที่เคยเข้าไปดูนั้น จะยังอยู่ครบหรือไม่นะครับ เพราะขนาดที่จำกัดของ พื้นที่ของ Temporary File นั่นเอง
2. การใช้เมนู File >> Save as หน้าเว็บเพจ ที่ต้องการเก็บไว้ วิธีนี้จะเป็นการเก็บข้อมูลทั้งหน้าลงใน ฮาร์ดดิสก์ ทำให้เก็บข้อมูลของหน้าเว็บเพจ ไว้ได้ตลอดไป เมื่อต้องการเรียกดูใหม่ก็เลือกเปิดที่ ชื่อไฟล์ที่เราเก็บไว้ได้เลย
3. การใช้เมนู Favorites >> Add Favorite ที่จริงแล้วเป็นการเก็บเฉพาะลิงค์ ของหน้าเว็บที่ต้องการไว้ แต่ถ้าหากเลือกที่ช่อง Make available offline ไว้ด้วย จะเป็นการสั่งให้ IE ทำการเก็บข้อมูลของหน้าเว็บนั้นแบบ Offline ได้ด้วย หากต้องการเรียกดูเมื่อไร ก็สามารถทำได้มันมี นอกจากนี้ยังสามารถสั่งให้ IE ทีการเช็คและอัพเดทข้อมูลของ Favorite ที่ตั้ง Offline นี้ไว้ได้โดยการเลือกที่เมนู Tools >> Synchronize ได้ด้วยครับ
การกำหนด Text Size และ Encode ของตัวอักษร
จากเมนู View จะมีให้เลือก Text Size และ Encoding ซึ่งเป็นการกำหนดขนาดของตัวอักษรและการเข้ารหัสภาษา ที่แสดงในแต่ละหน้าของเว็บเพจ ซึ่งในบางครั้ง เราสามารถทำการปรับแต่งขนาด และการกำหนดภาษานี้ได้ หากเข้าไปในเว็บบางที่ แล้วไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ก็ลองเปลี่ยน Encoding ช่องนี้ให้เป็น Thai ดูนะครับ
การเก็บลิงค์ของเว็บที่ชอบไว้ใน Favorites
ขณะที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตไปเรื่อย ๆ หากพบเว็บไซต์ที่ถูกใจ ต้องการเก็บลิงค์ของหน้าเว็บนั้นไว้ ก็สามารถทำได้โดยการเลือกที่เมนู Favorites และ Add Favorite จะทำให้ชื่อเว็บไซต์นั้น บันทึกอยู่ในเมนูของ Favorite ได้ วิธีนี้อาจจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การทำ Book Mark นั่นเอง โดยที่ใน Favorite ก็ยังสามารถสร้าง Folder ต่าง ๆ เพื่อแยกเก็บลิงค์ ของเว็บไซต์แบ่งออกเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ ได้ด้วย
การตั้งค่าของ Internet Options
เมนูหลัก ที่ใช้งานบ่อย ๆ และควรจะทราบไว้คือ Tools และเลือก Internet Options ซึ่งจะเป็นการตั้งค่าต่าง ๆ ของ Internet Explorer ให้เหมาะกับการใช้งานของเรา มาดูหลัก ๆ ที่ควรทราบและตั้งให้เหมาะสมกัน
หัวข้อ General

Home Page คือการตั้งหน้าเว็บเพจเริ่มต้น เมื่อเปิดโปรแกรม IE โดยอาจจะเลือกที่ปุ่มด้านล่างก็ได้
Use Current คือการตั้งหน้าเว็บเพจปัจจุบัน ให้เป็นหน้าแรก
Use Default คือการตั้งเป็นค่าเดิมของ Microsoft.com
Use Blank คือการตั้งหน้าแรกเป็นหน้าว่างเปล่า
Temporary Internet Files เป็นการกำหนดขนาดและที่อยู่ของ Temporary File สำหรับการดูแบบ Offline
History คือการกำหนด History ของเว็บเพจที่เคยเยี่ยมชมแล้ว ว่าจะเก็บไว้กี่วันหรือจะ Clear ทิ้ง
Colors เป็นการกำหนดสีต่าง ๆ ของการใช้งาน IE
Fonts เป็นการกำหนด Fonts ต่าง ๆ (แนะนำให้ตั้งเป็น Microsoft Sans Serif นะครับ)
Languages เป็นการกำหนดภาษาของ IE
Accessibility เป็นการกำหนดค่าต่าง ๆ ของ IE
หัวข้อ Security

จะเป็นการกำหนดระดับของการรักษาความปลอดภัย ในการใช้งานอินเตอร์เน็ต ก็ปรับไปที่ Default Level ทั้งหมดครับ
หัวข้อ Content

หลัก ๆ ที่ใช้งานคือช่อง AutoComplete... ครับ ใช้สำหรับการลบตัวอักษรที่จะจำอยู่ในแบบฟอร์ม เช่นอีเมล์ หรือรหัสผ่านต่าง ๆ ที่เคยเก็บไว้ ส่วนอันอื่นก็คงจะไม่ได้ใช้งานเท่าไรครับ
หัวข้อ Connections

จะเป็นรายละเอียดต่าง ๆ ของการเชื่อมต่อโมเด็ม ซึ่งเราสามารถทำการปรับแต่งค่าต่าง ๆ เช่นการตั้ง username และ password การเลือก Default Connection การลบ หรือเพิ่ม Connection ในนี้ได้
หัวข้อ Program

จะเป็นในส่วนของการเลือกโปรแกรม หรือซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานต่าง ๆ เช่นเลือกโปรแกรมสำหรับ รับ-ส่งอีเมล์ เลือกโปรแกรมสำหรับการแก้ไขเว็บเพจ และอื่น ๆ เป็นต้น
หัวข้อ Advanced

จะเป็นการตั้งค่าอื่น ๆ ต่าง ๆ ซึ่งโดยทั่วไปก็คงจะไม่จำเป็นต้องตั้งในส่วนนี้ครับ หากต้องการก็ลองอ่านรายละเอียดกันดู
เทคนิคการใช้งาน IE ที่ควรทราบ
1. การกดปุ่ม เมาส์ขวา เพื่อเรียกเมนูใช้งานอย่างรวดเร็วได้ เช่นการเก็บรูปภาพ การเปิดหน้าต่างใหม่ หรืออื่น ๆ
2. การกดปุ่ม Shift ค้างไว้ก่อนใช้เมาส์กดลิงค์ จะเป็นการบังคับให้เปิดลิงค์ในหน้าต่างใหม่ไปในตัว
3. การกดปุ่ม Shift ค้างไว้พร้อมกับการกดที่ปุ่ม Refresh จะเป็นการเรียกข้อมูลโดยตรงไม่เรียกจาก Proxy Server
4. การกดปุ่ม ALT + ปุ่มลูกศร ซ้าย หรือ ขวา จะเป็นการเรียกใช้เมนู Back หรือ Forward ได้เช่นกัน
5. การกดปุ่ม Ctrl + N เป็นการเปิดหน้าต่างใหม่เพิ่มขึ้นมา
6. หากพบภาพที่ถูกใจ สามารถตั้งให้เป็น Wall Paper ได้ทันทีโดยกดปุ่มเมาส์ขวา เลือกที่ Set as wallpaper
7. เราสามารถส่งหน้าเว็บเพจที่กำลังดูผ่านทางอีเมล์ ได้โดยการเลือกที่ File >> Send โดยจะส่งเป็นลิงค์หรือทั้งหน้าก็ได้
8. ก่อนการพิมพ์หน้าเว็บออกเครื่องพิมพ์ ควรจะเลือกที่ Print Preview เพื่อดูรูปแบบต่าง ๆ เสียก่อน
9. การค้นหาข้อความในหน้าเว็บเพจ สามารถใช้เมนู Edit และ Find (on This Page) หรือกด Ctrl + F ได้
10. การกำหนดขนาดของหน้าต่างที่เปิดใหม่ ทำโดยขยายขนาดของหน้าต่างที่เพิ่งเปิด ให้มีขนาดตามต้องการและกดปิด
11. ควรจะทำการอัพเกรด IE ให้เป็นเวอร์ชัน 5.50 built 4134.0600 หรือสูงกว่านี้เพื่อการใช้งานที่เสถียรขึ้น (มาก ๆ) ครับ
ก็หวังว่าจะช่วยให้คุณ ๆ ทั้งหลายได้รู้จักและใช้งาน Internet Explorer ได้มากขึ้นนะครับ อาจจะไม่มีรายละเอียดมากนัก หลาย ๆ ส่วนก็คงจะต้องให้คุณ ทำการทดลองปรับแต่งกันดูเอง แล้วจะเข้าใจมากกว่าที่ผมได้อธิบายมาในนี้ครับ
มาดูกันว่า Internet Explorer 5.5 SP1 หรือรุ่นใหม่กว่านี้ขึ้นไป มีดีอะไร
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Microsoft ได้ออกโปรแกรม Browser ยอดนิยม Version ใหม่ออกมาคือ Internet Explorer Version 5.50.4134.0600 (ขอเรียกสั้น ๆ ว่า IE5.5) และต่อมา ก็ได้มีการออกรุ่น IE5.5 SP1 และ IE5.5 SP2 ตามลำดับ ซึ่งเท่าที่ทราบมา IE5.5 รุ่นที่เป็น Beta ได้ออกมาให้ทดลองใช้งานกัน นานพอสมควรแล้ว (การดูรุ่น ให้สังเกตุจาก version ของรุ่นและตัวเลขที่ต่อท้าย โดยการเลือกที่ Help และ About Internet Explorer ซึ่งจะไม่เหมือนกันนะ) แต่ปัญหาต่าง ๆ ก็ยังพอมีอยู่บ้าง ทำให้ผมเองก็ยังไม่เคยคิดที่จะทดลองหาดาวน์โหลด มาใช้งาน จนเมื่อได้ยินว่ามี IE5.5 รุ่นนี้ที่คิดว่าน่าจะเป็นรุ่นที่ปรับปรุงแก้ไข จุดบกพร่องต่าง ๆ ไปได้มากแล้ว และประกอบกับผมเองมีปัญหากับเจ้าตัว IE5.0 ที่ติดมากับ Windows เดิม ๆ อยู่มาก คือเมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะเกิดอาการไม่ค่อยดีหรือที่เรียกกันว่า resource หมด (ปัญหาหลักของ IE ครับ) ต้องทำการบูทเครื่องใหม่ซะทีจึงจะเล่นได้ต่อ เขาบอกว่าถ้าเป็น IE5.5 จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ก็เลยลองหามาใช้ดูกับเขาดูบ้าง ได้ผลที่น่าพอใจ จึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
เริ่มต้นจากหาดาวน์โหลดเจ้า IE5.5 มาก่อน โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ที่ http://www.microsoft.com/windows/ie/ เลือกที่ Download Now เพื่อทำการดาวน์โหลดตัวติดตั้งของ IE5.5 มาเก็บไว้ที่เครื่องก่อน ซึ่งจะเป็นแค่ตัวติดตั้งเท่านั้น ขนาดไม่ใหญ่มากโดยเมื่อติดตั้งจริง ๆ จะต้องมีการดาวน์โหลด มาอีกครั้งขนาดทั้งหมด ก็แล้วแต่ option ที่จะเลือกตั้งแต่ประมาณ 10 M. ไปจนถึง 70 M. กว่า ๆ ทีเดียว เมื่อได้ตัวติดตั้งมาเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มต้นการติดตั้ง โดยวิธีการคือ ทำการต่ออินเตอร์เน็ตค้างไว้ แล้วเรียกไฟล์ติดตั้ง ie5setup.exe จากนั้นก็ทำการเลือก Option ต่าง ๆ ที่ต้องการแล้วก็ทำตามขั้นตอนไปเรื่อย ๆ (ผมเลือกแบบ Full ไปเลย) ช่วงนี้ จะมีการดาวน์โหลดข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตอยู่ค่อนข้างนานมาก คืออย่างที่บอก ประมาณ 27 M. ใช้เวลาอยู่เกือบ 4 ชม.จึงจะเสร็จ ถ้าหากเน็ตของใครที่เร็ว ๆ อาจจะได้เร็วกว่านี้ รอจนกว่าจะทำการดาวน์โหลดมาเสร็จและทำการติดตั้งโดยอัตโนมัติ จนเสร็จเรียบร้อยก็บูทเครื่องใหม่ windows จะทำการ update อีกครั้งก็พร้อมใช้งานได้แล้ว (ขั้นตอนต่าง ๆ จะเหมือนกับ การติดตั้ง IE5.0 ทุกอย่าง) สำหรับใครที่ต้องการเก็บไฟล์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการติดตั้งไว้ เพื่อใช้สำหรับ การติดตั้งในครั้งต่อไป จะได้ไม่ต้องทำการดาวน์โหลดมาใหม่ ก็สามารถเข้าไป copy จากโฟลเดอร์ของ Windows Update ในไดรฟ์ C: เก็บไว้ได้เลย
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มาดูสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปกันบ้าง เรียก Internet Explorer ขึ้นมาปุ๊บ หน้าต่างของ Dial-Up Networking ที่ใช้สำหรับต่อโมเด็มก็โผล่ขึ้นมาก่อน เอ หน้าตาคล้าย ๆ กับจะเหมือนเดิมแฮะ แต่พอมีการต่อโมเด็มจริง ๆ รู้สึกว่ามันแปลก ๆ ไปนิดนึง คือจะมีตัวเลขของเลขหมาย ISP ที่กำลังเรียกอยู่ขณะนั้นแสดงด้วย ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็กน้อย รอสักพักนึง เพื่อเข้าสู่ อินเตอร์เน็ต หน้าตาที่แปลกไปนิดนึงก็คือ แถบเมนูบาร์ ด้านบนจะมีปุ่มของ Messenger เพิ่มเติมขึ้นมาด้วย เข้าใจว่าใช้สำหรับการแจ้งหรือการบอกข้อมูลเมื่อมีเมล์ถึงเรา อะไรทำนองนี้แหละ แต่ก็ยังไม่ได้สนใจ ขอผ่านไปก่อน ลองใช้เมาส์กดไปเรื่อย ๆ ดีกว่า รู้สึกว่า เครื่องโดยรวมจะช้าลงไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่มากนัก พอจะรับได้ เปิดโน่น ปิดนี่ ลองเล่นไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่า ดีเหมือนกัน ยังไม่พบปัญหาอะไรมากวนใจ ทุกอย่างดูเหมือนจะทำงานด้วยดี มาดูหน้าตาของเจ้า IE5.5 ตัวนี้กัน
หน้าตาส่วนใหญ่ก็จะเหมือนเดิม แต่มี Messenger โผล่มาเพิ่มเติมหน่อยนึงเอง
ดูกันตรง Version 5.50.4134.0600 นะครับ นี่แหละ IE ตัวที่น่าใช้ที่สุด
นึกขึ้นมาได้ ปัญหาหลักของ IE5.0 ตัวเดิมที่ใช้อยู่แต่ก่อนหน้านี้ เมื่อเปิดหน้าใหม่ไปนาน ๆ หรือเมื่อมีการพิมพ์ข้อความต่าง ๆ ตามเว็บบอร์ดมาก ๆ แล้วจะมีอาการเดี้ยง หรือที่เรียกกันว่า Resource หมด ว่าแล้วก็ลองกันเลย เข้าเว็บขาประจำที่เป็นเว็บบอร์ด ทดลองพิมพ์ภาษาไทยแบบไม่ยั้งเลยครับ เคาะไปเรื่อยเปื่อย จนคิดว่ามากพอแล้ว เรียกได้ว่าถ้าเป็นของเดิมเนี่ย เสร็จไปแล้ว ลองดูค่า System Resource ซะหน่อยว่าเป็นไงกันบ้าง (วิธีดูก็เรียก windows explorer แล้วเลือกที่ Help และ About Windows) อืมมม.. ปกติดีครับ แก้ไขปัญหาการกิน Resource ได้จริง ๆ เอาหละทีนี้ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว นับว่าเป็นข้อดี อีกข้อหนึ่ง
เล่นไป เล่นมาอีกสักพัก นึกขึ้นมาได้ ลองเช็คเมล์ดูซะหน่อย ว่าแล้วก็กดที่ Mail ทันที ทุกอย่างดูเหมือนเดิมครับ แต่เอ๊ะ อะไรน่ะ เห็นแล้วต้องหัวเราะก๊ากออกมาก่อน ก็เพราะว่าเจ้า mail account ของ hotmail นี่นะสิ เวลาที่กดเลือกไปแล้ว จะมีการแสดงแถบแบนเนอร์ ที่ด้านล่างสุดของหน้าจอแถมมาด้วย เพิ่งจะเคยเห็นครับ นึกอยู่ในใจเล่นกันอย่างนี้เลยนะ เรื่องนี้ทำให้นึกถึงสมัยที่มีการออก IE5.0 มาใหม่ ๆ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สามารถใช้ Outlook Express กับอีเมล์ของ hotmail ได้ตอนนั้นก็ได้ยินหลาย ๆ คนพูดกันอยู่บ้าง ว่าถ้าใช้ Outlook กับ hotmail ได้แบบนี้ hotmail จะได้อะไรจากการเปิดบริการ ฟรีอีเมล์ล่ะ เพราะว่าหากเปิดเมล์ด้วย Outlook ก็จะไม่มีแบนเนอร์ต่าง ๆ มาแสดง ซึ่งน่าจะเรียกว่าเป็นรายได้หลักของ hotmail เขาก็ว่าได้ วันนี้มาเจอกับมุขของ Outlook 5.5 แบบนี้ บอกตรง ๆ ว่าสะอึกไปเลยครับ แต่ก็ OK. ยอม ๆ เขาไปนะ ลองดูจากรูปเอาเองก็แล้วกันนะ

ข้อแตกต่างอย่างอื่น เท่าที่ทดลองเล่นมาดูสักพักหนึ่ง ก็ยังไม่เห็นอะไรเด่นชัดมากนัก เข้าใจว่ามีการปรับปรุงอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง แต่เพราะว่าเวลาที่ได้ทดลองเล่นดูอาจจะยังน้อยไป เลยไม่ค่อยเห็นอะไร โดยรวมแล้วขอสรุปว่า หากคุณมีชั่วโมงอินเตอร์เน็ตเหลือ หรือมีแบบฟรี ๆ ก็ลองหาดาวน์โหลดมาใช้กับ คุ้มครับกับเวลาที่เสียไปแลกกับการเล่นอินเตอร์เน็ตที่เสถียรมากขึ้น
สรุปข้อแตกต่างที่เห็นชัดเจนระหว่าง IE5.0 กับ IE5.5 อีกครั้ง
1. เพิ่มเติม Messenger ขึ้นมาในเมนูทูลบาร์
2. ระบบโดยรวมดูเหมือนจะช้าลงไปนิด ๆ แต่ไม่มากนัก
3. มีการแทรกแบนเนอร์มาใน Outlook Express ด้วยเมื่อใช้ hotmail
4. สามารถพิมพ์ภาษาไทยตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ ไม้มากมายไม่มีปัญหาเรื่อง resource หมด
5. Dial-Up Networking ดูแปลก ๆ ไปนิดนึง แต่ก็ไม่มากนัก
6. เพิ่มความสามารถด้านอื่น ๆ เช่น DHTML, Filter ที่ทำให้ Web Page สวยงามขึ้นรวมทั้ง iFrame ด้วย
7. สรุปว่าน่าใช้งานครับ และอย่าลืมว่าต้องเป็น Version 5.50.4134.0600 หรือใหม่กว่านี้ขึ้นไปด้วยนะ
การต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายผ่านมือถือแบบ GPRS โดยใช้อุปกรณ์ Bluetooth
อินเตอร์เน็ตไร้สายผ่านมือถือด้วยระบบ GPRS ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของการใช้งานอินเตอร์เน็ต เพราะว่า ในช่วงนี้ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือหลาย ๆ ค่าย ก็มีการทำโปรโมชั่นด้านราคา ออกมาค่อนข้างน่าใช้งานมาก โดยมีราคาถูกลงกว่าเดิมมาก และยิ่งถ้านับเรื่องความสะดวก สำหรับผู้ที่ต้องการ ใช้งานอินเตอร์เน็ตนอกสถานที่ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่น่าสนใจทีเดียว
ก่อนอื่น มาดูรูปแบบต่าง ๆ ของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านมือถือก่อน โดยทั่วไปแล้ว การที่เราจะสามารถทำการ เชื่อมต่อ เครื่องคอมพิวเตอร์กับโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูลได้ จะแบ่งวิธีการเชื่อมต่อออกเป็น 3 รูป แบบคือ
1. ผ่านสาย Datalink กรณีนี้ ส่วนมาก จะต้องมีสาย Datalink และ software เฉพาะของมือถือแต่ละรุ่น ซึ่งค่อนข้างจะแพง
2. ผ่าน IrDA หรืออินฟาเรด โดยวิธีนี้ จะเหมาะกับมือถือรุ่นเก่า ๆ ข้อเสียคือเวลาใช้งานจะต้องเอา irda มาจ่อให้ตรงกันตลอด
3. ผ่าน Bluetooth หรือระบบเชื่อมต่อไร้สาย วิธีนี้จะสะดวกมาก ไม่มีสาย แต่มือถือที่รองรับ bluetooth จะค่อนข้างแพง
ในที่นี้ จะขอแนะนำการต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน bluetooth โดยอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการทดสอบคือ Bluetooth แบบ USB ของ CSR USB Bluetooth และโทรศัพท์มือถือ Sony Ericsson รุ่น T610 โดย SIM ของมือถือที่จะใช้งาน ต้องผ่านการเปิดใช้บริการ GPRS และตั้งค่าใช้งาน GPRS บนเครื่องโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถดูวิธีการตั้งค่าจากระบบต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ระบบ AIS
- ระบบ DTAC
- ระบบ Orange
หรือจะโทรสอบถามจาก call center ของแต่ละระบบก็ได้
การเชื่อมต่ออุปกรณ์ 2 ชิ้นเข้าด้วยกันเพื่อใช้รับส่งข้อมูลผ่าน Bluetooth นั้น เราสามารถเลือกใช้บริการต่าง ๆ ได้หลายอย่าง เช่น การรับ-ส่งไฟล์ ระหว่างกัน การจำลองให้เป็น Serial Port หรือการเชื่อมต่อเพื่อแชร์เน็ตก็ได้ แต่ในที่นี้ จะขอแนะนำ แค่เพียง การนำเอาระบบ Bluetooth มาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้เล่นอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ เท่านั้นครับ
ขั้นตอนหลักใหญ่ ๆ ในการเซ็ตค่าต่าง ๆ ให้เล่นอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ
1. เปิดการใช้งานระบบ GPRS ของมือถือก่อน และเซ็ตค่าสำหรับ GPRS ในเครื่องโทรศัพท์ให้เรียบร้อย
2. ลง Driver ของ USB Bluetooth และเปิดใช้งาน Service ต่าง ๆ โดยเฉพาะ Dial-Up Networking
3. ทำการจับคู่หรือ Pairing ระหว่างมือถือและ PC ให้ทั้งสองรู้จักกันได้
4. สร้าง Dial-Up Connection สำหรับใช้ต่ออินเตอร์เน็ต
5. เรียกใช้งานผ่าน Dial-Up Connection ได้เลย
เริ่มต้นการติดตั้ง driver และลง software ที่จำเป็นสำหรับ Bluetooth ก่อน
ก่อนอื่น ก็ต้องทำการลง driver ของ Bluetooth ก่อน ซึ่งขั้นตอนการลง driver อาจจะแตกต่างกันไปจากนี้ ตามแต่ละยี่ห้อ แต่คิดว่า คงจะไม่ต่างกันมากนัก เริ่มจาก การเสียบ USB Bluetooth ในเครื่อง และเรียกไฟล์ setup สำหรับลง driver จากแผ่นซีดีที่แถมมา

เลือกที่ Install Driver and Application และกด OK ครับ

ขั้นตอนการลง driver และ software ก็ทำไปตามปกติ กดที่ Next ไปเรื่อย ๆ ได้เลย

ทำการลง driver ไปจนเสร็จถึง Finish ครับ
หลังจากลง driver เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นการเซ็ตอัพบริการต่าง ๆ บนเครื่อง โดยโปรแกรมจะเรียก Bluetooth Configuration Wizard ขึ้นมา เพื่อทำการเซ็ตค่าของบริการและทำการจับคู่หรือ Paring กับอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อให้อุปกรณ์ สามารถรู้จัก และรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้ ถ้าไม่มีเมนูหน้าจอนี้ ก็ลองค้นหาดูจาก Program Menu ว่ามีโปรแกรมหรือ software อะไรทำนองนี้อยู่บ้าง

ต่อไป ก็จะเป็นการเซ็ตค่าต่าง ๆ ของอุปกรณ์อัตโนมัติ กดที่ Next เพื่อเซ็ตค่าต่อไป

เครื่องจะตั้งชื่อ computer name ตามที่เราเคยใส่ไว้ ถ้าไม่ต้องการเปลี่ยน ก็กดที่ปุ่ม Next

หน้านี้ จะเป็นการเลือกว่าเราต้องการใช้บริการอะไรจาก Bluetooth ในเครื่องบ้าง อย่างที่ได้บอกแต่ต้นแล้ว ว่าระบบ Bluetooth สามารถมีบริการให้เลือกใช้งานได้หลายอย่าง ตรงนี้เราก็เลือกทุกอย่าง แล้วกด Next ต่อไป

ถึงตรงนี้ จะเป็นการเซ็ตให้เครื่อง PC รู้จักกับ โทรศัพท์มือถือ หรือที่เรียกว่า Pairing หรือการจับคู่ระหว่างอุปกรณ์ เพื่อให้อุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิด มองเห็นกันและใช้งานร่วมกันได้ ถึงตรงนี้ ให้เราทำการเปิดการใช้งาน Bluetooth ที่เครื่องโทรศัพท์ไว้ เพื่อให้ระบบสามารถค้นหาได้พบ และกดที่ปุ่ม Next เพื่อทำการตั้งค่าต่อไป

รอสักครู่ ระบบจะทำการค้นหาอุปกรณ์ที่เปิดใช้งาน เอาเมาส์กดเลือกที่อุปกรณ์ (เช่น จากตัวอย่างคือ T610) และกดที่ปุ่ม Next

จากนั้น จะเป็นการทำ Pairing หรือการจับคู่ระหว่าง 2 อุปกรณ์ โดยก่อนที่จะทำการจับคู่ได้นั้น จะต้องมีการยืนยันรหัสผ่านหรือ PIN Code ก่อน ซึ่งเราจะตั้งรหัสตรงนี้เป็นเลขอะไรก็ได้ (ตั้งเป็นตัวเลขนะครับ) เมื่อใส่ Pin Code ที่ตั้งขึ้นมามาแล้ว กดที่ปุ่ม Initiate Paring เพื่อทำการจับคู่ให้สำเร็จก่อน
ที่เครื่องโทรศัพท์ ก็จะมีเมนูของการทำ Paring หรือจับคู่ หรืออาจจะเป็นคำว่า "เพิ่มอุปกรณ์ของฉัน" ทำนองนี้ ให้ใส่รหัสยืนยัน PIN Code ที่เราตั้งไว้ให้ตรงกัน แค่นี้ก็เสร็จแล้ว
เมื่อเราสามารถทำการ Paring ได้เรียบร้อยแล้ว ก็มาเลือกว่า จะใช้บริการอะไรบ้าง ตรงนี้ อย่างที่บอกว่า จะขอแนะนำเฉพาะการต่ออินเตอร์เน็ตผ่านมือถือเท่านั้น ก็ให้เลือกที่บริการ Dial-up Networking

เมื่อเลือกที่บริการ Dial-up Networking แล้ว อาจจะมีเมนูให้ทำการตั้งค่าระบบ ก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนอะไรมาก กดปุ่ม OK ไปเลย

ถึงตรงนี้ ก็เป็นอันเสร็จแล้วครับ ถ้าไม่มีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จะมา Paring ก็กดที่ปุ่ม Skip เพื่อจบขั้นตอนการเซ็ตค่าได้เลย

ตรงนี้ก็ถือว่า ขั้นตอนการลง driver และเซ็ตระบบต่าง ๆ ก็เสร็จเรียบร้อยครับ กดที่ปุ่ม Finish
การตั้งค่าของโมเด็มเพิ่มเติม ก่อนการใช้งานอินเตอร์เน็ต GPRS ผ่าน Bluetooth
ถึงตรงนี้ เราก็พร้อมที่จะใช้งาน Modem ผ่าน Bluetooth ได้แล้ว ซึ่งในกรณีที่เราตั้งค่าต่าง ๆ ตามด้านบนเรียบร้อยแล้ว ให้ทดลองต่อเข้าอินเตอร์เน็ตดูก่อน ถ้าหากสามารถใช้งานได้ ก็ให้ข้ามขั้นตอนการตั้งค่าของโมเด็มนี้ไปเลย แต่ถ้าหากทดลองต่ออินเตอร์เน็ตแล้ว ยังไม่สามารถใช้งานได้ ให้ทดลองเข้ามาตั้งค่าของโมเด็มเพิ่มเติมตรงนี้
โดยเริ่มจาก เข้าไปที่หน้า control panel ครับ

กดเลือกและดับเบิลคลิกที่ Phone and Modem

จะเห็นว่ามี Bluetooth Modem เพิ่มขึ้นมาจากเดิม กดเลือกที่ Bluetooth Modem และกดที่ปุ่ม Properties

กดเลือกที่ Advanced และให้ใส่คำว่า AT+CGDCONT=1,"IP","internet" ลงไปในช่อง Extra initialization commands และกดปุ่ม OK เพื่อกลับไปหน้าเดิม และปิดหน้า control panel ได้เลย
การเริ่มต้นเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Dial-up Network Connection
หลังจากที่ทำการตั้งค่าต่าง ๆ แล้ว เมื่อเข้ามาที่หน้า Dial-up Network Connections ก็จะเห็นว่า มีรายการ Dial-up เพิ่มขึ้นมาอีก 1 อันคือ Bluetooth Connection ซึ่งก็จะเหมือนกับ Dial-up ทั่ว ๆ ไปนั่นเอง
สำหรับบางเครื่องหรือ Bluetooth บางยี่ห้อ ถ้าหากไม่มี Dial-up ตัวใหม่เพิ่มมา อาจจะทดลองสร้าง Dial-up Connection ขึ้นมาเองก็ได้ โดยให้ทำเหมือนกับการสร้างจากโมเด็มธรรมดา แต่แทนที่จะเลือกโมเด็มตัวเดิม ก็เปลี่ยนมาใช้ Bluetooth Modem แทน และถ้าหากท่านไม่พบว่ามี Bluetooth Modem เพิ่มขึ้นมา ให้ลองตรวจสอบดูว่า ได้เปิดบริการของ Dial-up Networking ของ Bluetooth ไว้แล้วหรือยังก่อน

ลองกดเมาส์ขวาที่ Dial-up ของ Bluetooth Connection และเลือกที่ Properties
หน้าตา ก็เหมือนกับ Dial-up ทั่วไปนั่นแหละครับ แต่ตรงเบอร์โทร Phone number แทนที่จะใส่เป็น เบอร์สำหรับ การเชื่อมต่อ ของอินเตอร์เน็ตทั่วไป ก็ต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่แบบ GPRS ซึ่งสามารถหาข้อมูลเบอร์นี้ได้จากเว็บไซต์ของมือถือแต่ละค่าย หรือโทรสอบถามจาก call center ของมือถือได้เลย โดยคร่าว ๆ ที่ทราบมาจะใช้เบอร์ดังนี้
Orange = *99#
AIS = *99***1#
DTAC = *99***2#
หลังจากใส่เบอร์แล้วก็กด OK
เสร็จแล้ว เมื่อต้องการจะต่ออินเตอร์เน็ต ก็เรียกที่ Dial-up Connection เหมือนกับการต่อเน็ตทั่วไป

ในกรณีระบบ GPRS ของโทรศัพท์ Orange จะต้องใส่ user และ password เป็นคำว่า orange ด้วย แต่ GPRS ของ AIS หรือ DTAC ไม่ต้องใส่ ให้เว้นว่างไว้ และกดที่ปุ่ม Dial เพื่อเริ่มต้นการต่อเน็ต

หน้าจอการเชื่อมต่อเน็ต ก็จะคล้าย ๆ กับการต่อเน็ตธรรมดานั่นแหละ

รอสักพักนึง เมื่อต่อได้เรียบร้อยแล้ว ลองกดดูการเชื่อมต่อครับ จะได้รายละเอียดดังรูปข้างบนนี้

ทดลองเข้าเว็บ com-th.net ดู
ความเร็วที่ได้จากการต่ออินเตอร์เน็ตแบบ GPRS
ทีนี้ หลายคนคงสงสัยว่า การต่อเน็ตผ่าน GPRS นี้ จะได้ความเร็วเท่าไรกันแน่ เอาเป็นว่า ผมไม่มีข้อมูลแบบละเอียดของระบบ GPRS นะครับ ว่าความเร็วแบ่งออกเป็นเท่าไรบ้าง แต่ขอบอกว่า ความเร็วของการเชื่อมต่อแบบนี้ จะได้ประมาณ เทียบเท่ากับโมเด็ม 56k โดยประมาณ โดยความเร็ว อาจจะช้าหรือเร็วกว่านี้ ขึ้นอยู่กับ จำนวนคนที่ใช้งานข้อมูล พร้อม ๆ กันในขณะนั้น และขึ้นอยู่กับ รุ่นของโทรศัพท์มือถือ ว่ารองรับ GPRS ใน Class ไหนได้บ้าง ถ้าเป็นมือถือรุ่นใหม่ ๆ ความเร็วสูงสุด จะมากกว่ารุ่นเก่า ๆ
มาทำการทดสอบความเร็วของอินเตอร์เน็ตแบบนี้กัน เริ่มต้น ทดสอบจาก server ในเมืองไทยและของเมืองนอก

ผลการทดสอบจาก http://www.thaicybersoft.com/service/bandwidthmeter/

ผลการทดสอบจาก http://us.mcafee.com/root/speedometer.asp?cid=9438
ได้ผลยังไง ก็ลองดูกันเองครับ ถือว่าเทียบเท่ากับโมเด็มธรรมดาได้เลย
การทดสอบใช้งาน software อื่น ๆ
ตอนแรก ผมเองก็สงสัยว่า แล้วการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบนี้ จะสามารถใช้งานอีเมล์หรือโปรแกรมอื่น ๆ ได้หรือไม่ ก็ทดลองกันดู เริ่มจาก การใช้งานโปรแกรม FTP ผ่านเน็ตก่อน

พบว่าสามารถใช้ FTP ได้ตามปกติ จากนั้น ทดสอบการรับและส่งเมล์ด้วย Outlook Express ดูบ้าง

การใช้งาน Outlook Express เพื่อรับส่งอีเมล์ก็พบว่า สามารถใช้งานได้ตามปกติ รับและส่งอีเมล์ได้เลย
สรุปนะ การเชื่อมต่อแบบนี้ นับได้ว่าเหมาะกับบ้านหรือผู้ที่อยู่หอพักที่ไม่มีโทรศัพท์ หรือผู้ที่ต้องการใช้งานอินเตอร์เน็ตนอกสถานที่ โดยที่ บทความทั้งหมดนี้ ผมเขียนขึ้นมาจาก อุปกรณ์ที่ผมมีทดลองใช้งานเท่านั้น บอกตรง ๆ เลยว่า ถ้าเป็นอุปกรณ์ยี่ห้ออื่น หรือเป็นมือถือรุ่นอื่น ๆ ผมเองก็ไม่เคยจับต้อง ดังนั้น ถ้าท่านใดพบปัญหาหรือมีขั้นตอนการติดตั้ง ที่นอกเหนือไปจากนี้ ก็คงต้องลองเปิดดูคู่มือวิธีการติดตั้งและการเซ็ตค่าต่าง ๆ เพิ่มเติมด้วย
ข้อสำคัญ : การคิดค่าบริการของ GPRS โดยปกติจะแพงมาก ๆ ดังนั้น หากใครคิดจะเล่นอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือ ต้องตรวจสอบ การคิดค่าบริการก่อนด้วย ควรจะเป็นการใช้โปรโมชั่นแบบไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน ไม่เช่นนั้น เจอบิลเรียกเก็บค่าโทรศัพท์ อาจจะเป็นหลักหมื่นบาทได้ง่าย ๆ นะครับ